ทำไมพี่....ชอบ....เร็วจัง?
(คำที่หายไป คือ ชื่อของบุคคลที่ไม่สามารถเอ่ยนามได้)
น้องที่ผมสนิทมากคนหนึ่ง ถามผมด้วยประโยคนี้...สดๆร้อนๆ..
ใช่...เมื่อคืนนี้เอง
.....
คำถามนี้..ดูแสนจะธรรมดา
แต่มันสุดแสนจะกวนใจผม ให้ครุ่นคิดถึงเหตุผลของการกระทำดังกล่าว
.....
ที่กวนใจ ไม่ใช่ว่าทำไมน้องถึงถามผมแบบนี้
และ..
ไม่ใช่ว่าทำไมพี่คนนั้นถึงชอบ....เร็วนัก
แต่...
แค่สงสัยว่า...
ช้าหรือเร็ว..มันแตกต่างกันยังไง
มันส่งผลต่างกันยังไง..
และมันมีความสำคัญขนาดที่ต้องเอามาถามกันเลยเหรอ...
...ผมไม่เข้าใจ
ไม่เข้าใจว่า...
ระยะเวลาช้าหรือเร็ว...
..มันจะมาเกี่ยวข้องกับ"ความชอบ"ได้ยังไง
ในเมื่อ"ความชอบ"คือกระบวนการคัดกรองทางจิตใจของมนุษย์
ที่จะช่วยให้คนเราสามารถที่จะ"ตัดตัวเลือก"ที่มีอยู่หลายตัวไปได้ง่ายขึ้น..
ในเวลาอันจำกัด..หรืออีกนัยหนึ่งคือ..
..ในเวลาที่เรายังไม่มีโอกาสทำความรู้จักกันมากพอ..
โดยสมองของเรา..จะไปขุดคุ้ยเอาประสบการณ์ครั้งเก่าก่อน..
ที่มันสามารถสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับเราได้...มาเป็นตัวตัดสิน
ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าเราจะไปซื้อกระเป๋าซักใบ...
เมื่อเราเหลือบไปเห็นใบที่สีสันถูกใจ การใช้งานก็เหมาะสม ราคาก็ใช้ได้ ดีไซน์สวย
เราก็จะ"ชอบ"ใบนั้นขึ้นมาทันทีและตัดสินใจซื้อในที่สุด ในเวลาเพียง...
...ไม่กี่นาที!!!!!!!!!!!
...ทั้งๆที่เรายังไม่ได้ลองใช้มันด้วยซ้ำ...!!!!!!!
แต่เราก็"ชอบ"มันไปแล้ว..
ซึ่ง.....ไม่ได้แปลกอะไรเลย.....เราเพียงแค่"ชอบ"เท่านั้น
เวลาไม่มีความสำคัญอะไร...
เพราะ"ความชอบ"เป็นเพียงประตูบานแรก ที่จะช่วยกรองของหลายชิ้น..
ให้เหลือเพียง"ชิ้นเดียว"
เพื่อที่จะได้มีโอกาส..ทำความรู้จักกัน..ได้ง่ายขึ้น ชัดเจนขึ้น...
ส่วนมันจะพัฒนาไปเป็น"ความรัก"ได้หรือไม่นั้น
ไม่มีใครรู้...นอกจากคนสองคน...
.................
พูดถึง"ความรัก"...
มันถือเป็นระยะที่ต่อเนื่องในกรณีที่ต่างกัน...
ในกรณีที่เป็นสิ่งของ...
"ความรัก"จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเกิดกิจกรรมหรือเกิดการใช้งานที่ถูกใจ
หาสิ่งอื่นมาทดแทนได้ยาก...จนเราต้องบอกว่า..เรา"รัก"กระเป๋าใบนี้มาก
เพราะ......................................(มากมายเกินจะพูดหมด)
และหวงแหน กลัวการที่ต้องสูญเสียมันไป
และแน่นอนว่า..เราไม่ได้รักกระเป๋าทุกใบที่เราชอบ(เราจะรู้ได้ว่า"รัก"ก็ต่อเมื่อได้ลองใช้แล้วเท่านั้น)
..แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับเรา
แต่เราก็ยังเก็บมันไว้ในความทรงจำที่ดี..ไม่ใช่เหรอ
......
ส่วนในกรณีที่เป็นคน...
การที่เรา"ชอบ"ใคร..นั่นหมายถึง...
เราอยากที่จะมีโอกาสได้เรียนรู้นิสัยใจคอ...ของคนคนนั้นให้มากขึ้น...
(เรียนรู้นิสัยกับใจนี่..พอจะเข้าใจได้...แต่คอนี่สิต้องเรียนรู้กันด้วยเหรอ)(ฮา)
โดยอาจจะต้องพิจารณาจากลักษณะภายนอก ที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าซะก่อน
เช่น หน้าตา รูปร่าง น้ำเสียง การพูดคุย ลักษณะท่าทาง การศึกษา มากน้อยแตกต่างกันไปในแต่ละคน
ซึ่งถ้าทั้งหมดนี้..ผ่านเกณฑ์ที่เราตั้งไว้...แน่นอนว่า
เราก็"ชอบ"คนคนนั้นได้ทันที
ซึ่ง..ไอ้การที่เราจะรู้เรื่องพวกนั้นได้เนี่ย...
มันจะใช้เวลาซักเท่าไหร่กัน..บางคนอาจจะนานเพราะไม่มีโอกาส
..แต่บางคนก็เร็วเพราะโอกาสมีมากมาย
ฉะนั้น..ระยะเวลาก่อนที่จะ"ชอบ"ใครซักคนจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรต้องเอามาคิด
เนื่องจาก...มันยังบอกอะไรไม่ได้
ใครจะรู้ได้ว่า..หลังจากที่"ชอบ"แล้ว..ได้มีโอกาสเรียนรู้กันและกันมากขึ้นแล้ว
เราจะ"รัก"กันได้หรือเปล่า...อาจจะ"รัก"หรือไม่"รัก"ก็ได้ทั้งนั้น
เวลาจะเป็นตัวบอกทุกสิ่งทุกอย่าง...
ถึงตอนนั้นเราจะรู้เอง..และยอมรับมันได้เอง
..................
.......ฉะนั้น ถ้ามีใครมาชอบคุณ..จงอย่าถามเค้าว่า..ทำไมคุณชอบฉันเร็วจัง?
เพราะมันอาจทำลายความรู้สึกดีๆที่อีกฝ่ายหนึ่งมีให้ อย่างไม่รู้ตัว
อาจเป็นการดูถูกความประทับใจที่ก่อตัวขึ้นในใจอีกฝ่าย ว่าเสแสร้ง แม้คุณจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม
..................
..แต่ถ้ามีคนบอกคุณว่า..."ผมรักคุณ"ในเวลาที่คุณยังคิดว่าไม่นานพอ
นี่แหละ คือช่วงที่คุณควรถามเค้าว่า..
..ทำไมรักฉันเร็วจัง?
........
.....
สุดท้าย..
ทุกอย่างมันก็อยู่ที่ใจคุณนั่นแหละ..
ว่าจะคิดยังไง
..............
..........
......
...
เกือบลืม..ละครท้ายเรื่อง
"หนุ่มน้อยพนักงานขับรถไฟกับหวานใจตัวจิ๋ว"
...ต่อจากเมื่อวานนี้
หวานใจบอกกับหนุ่มน้อยว่า..เธอรู้..ว่ามีคนคนหนึ่งที่ให้เธอได้ทุอย่าง เข้าใจเธอได้ทุกอย่าง..แต่..
ปัญหาสำคัญก็ คือ "เธอไม่ได้รักเค้า"
หนุ่มน้อยมองไปที่หวานใจด้วยแววตาเอ็นดู....แล้วบอกว่า...
..นั่นไม่ใช่ปัญหาจ้ะหรอกหวานใจ...ไม่มีใครรักกันได้เร็วขนาดนั้น...
แม้แต่คนคนนั้นก็เถอะ..ผมว่าเค้าก็ยังไม่รู้ว่า...
..เค้ารักหวานใจหรือเปล่า?...
..เค้าแค่รู้สึกดีๆ...รู้สึกชอบและอยากให้มันพัฒนาไปมากกว่านี้...
...การที่หวานใจไม่ได้รักเค้า..อาจไม่ได้หมายความว่า..
หวานใจไม่ได้รักเค้าจริงๆ..
แต่หวานใจอาจจะยังไม่รู้หรือเปล่า..
ว่าจะรักเค้าได้มั้ย....
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงล่ะก็...
หวานใจจะปฏิเสธเค้าตั้งแต่ยังไม่ได้ลองคบกันเลยเหรอ..
ด้วยเหตุผลที่ว่า...ไม่ได้รักเค้างั้นเหรอ..
อืม..ถ้าผมเป็นเค้านะ คงน้อยใจแย่..
ดูสิ..ไม่มีแม้กระทั่งโอกาส...ที่จะพิสูจน์
หวานใจรู้อะไรมั้ยคะ..ว่า
ผมกับแฟนตอนเริ่มคบกัน..
เรายังไม่ได้รักกันเลย..เรามารักกันก็ไอ้ตอนที่ได้มีโอกาสแสดงความห่วงใย
กันนั่นแหละ..ยิ่งใช้เวลาร่วมกัน
..ก็ยิ่งรักกัน
อื้อ..แต่ผมจะพูดเรื่องของผมทำไมเนอะ...
เอาเถอะ...ชีวิตของหวานใจ..
ก็ต้องตัดสินใจเอาเอง..
ผมแค่อยากทักท้วงว่า..
อย่าปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป...
ได้ลองแล้วถ้าไม่ดี..ก็หยุด....ยังไงซะก็น่าจะดีกว่าไม่ได้ลองนะครับ
น่าจะดีกับทังสองฝ่าย...
ผมเชื่อนะ..ว่าถ้าเค้ารู้ว่า...หวานใจไม่ไหว..เค้าก็พร้อมที่จะหยุด
คนอย่างเค้า..เท่าที่ผมรู้..มักจะคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอแหละ..
แม้มันออกจะทรมานอยู่ซักหน่อย..แต่เพื่อความสบายใจของอีกฝ่าย
ผมว่า...เค้าก็พร้อมจะทำนะ
แล้วเลือกที่จะเก็บความทรงจำที่ดีๆไว้แทน
อื้อ...เด๋วผมต้องไปขับรถต่อแล้ว
ฝากไปคิดเป็นการบ้านด้วยนะคะ...
....
อื้อ...บางครั้งจุดหมายปลายทางก็ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่นะคะ คนที่จะร่วมเดินทางไปด้วยนี่สิสำคัญกว่านะ
(จะพูดทำไมเนี่ย.............หนุ่มน้อยยิ้ม)
ไปแล้ววววว..................................บ๊ายยยยยบายยยย
...........................................
และแล้วเรื่องราวก็จบลงอย่าง..งง...งง
...........the end....................
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น